ข่าวการรับจำนำข้าว

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557


ข่าวการรับจำนำข้าว



ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2557 06:00:00 น.
ปปช.ฟุ้งหลักฐานโกงจำนำอื้อ
ใกล้ปิดคดีปู
เร่งสอบบัญชี5รัฐมนตรี
ขยายผลโยงคนใกล้ชิด
เล็งตรวจสต๊อกร่วมคสช.
เมื่อวันที่ 8มิถุนายน นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการไต่สวนทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้ป.ป.ช.ดำเนินการ 2 เรื่องไปพร้อมกัน เรื่องแรก เป็นเรื่องที่ค้างอยู่คือ กรณีการระบายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีซึ่งอยู่ระหว่างไต่สวนนายบุญทรง  เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์กับพวก ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตโครงการจำนำข้าวว่ามีการซื้อขายระหว่างประเทศจริงหรือไม่ การไต่สวนต้องรอบคอบ ขณะนี้บริษัทเอกชนที่ถูกเรียกมาไต่สวนทยอยให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์กับการพิจารณา
นายวิชากล่าวต่อว่า ส่วนการไต่สวนกรณีละเลยเพิกเฉยไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหายของน.สยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น การให้ถ้อยคำของพยานที่ทีมทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้ไต่สวนเพิ่มเติม4ปากเสร็จแล้ว คณะทำงานฯจะสรุปมารายงานต่อที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ไต่สวนมาเพียงพอหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าคดีไต่สวนน.ส.ยิ่งลักษณ์จะแล้วเสร็จก่อนคดีไต่สวนนายบุญทรงกับพวกใช่หรือไม่  นายวิชากล่าวว่า น่าจะเสร็จก่อน แต่จะเมื่อใดคาดเดาไม่ได้ ต้องรอดูข้อเท็จจริงจากคณะทำงานฯที่จะสรุปส่งมาให้สัปดาห์หน้าก่อนว่าข้อมูลโยงใย ถึงบุคคลใด ต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วน ขณะเดียวกัน คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของ 5 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวจะเร่งตรวจสอบควบคู่ไปด้วย ซึ่งต้องนำผลการตรวจสอบนั้นมาประกอบการไต่สวนคดีดังกล่าว
ถามต่อว่า การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินจะใช้เวลานานหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า ต้องดูว่ามีทรัพย์สินผิดปกติหรือไม่ ซึ่งต้องทำอย่างเร็วมาก เพราะต้องมียึดและอายัดทรัพย์สิน โดยดูบัญชีทรัพย์สินของบุคคลใกล้ชิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด  ทั้งนี้ การไต่สวนคดีทุจริตจำนำข้าวทุกประเด็นที่ผ่านมาป.ป.ช.ได้รับความร่วมมือเรื่องพยานหลักฐานดีมาก ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นมาก
จะทำให้การไต่สวนคดีนี้เร็วขึ้น เพราะค้างคามานานแล้ว
เมื่อถามความเห็นกรณี 8 สมาคมชาวนา ต้องการให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวต่อ เพราะเห็นว่าได้ราคาดี นายวิชากล่าวว่า เป็นเรื่องระดับนโยบาย ที่คสช.จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งป.ป.ช.ให้บอกข้อมูลต่างๆไปแล้วว่าตรวจสอบพบอะไรบ้าง คสช.ก็ทราบดี เพราะได้เชื่อมโยงข้อมูลกันอยู่เป็นอย่างดี
ส่วนการลงพื้นที่ตรวจสต็อกข้าวของป.ป.ช.จะทำคู่ขนานไปพร้อมกับ คสช.ที่ดำเนินการไปแล้วหรือไม่นั้น ปนายวิชาเผยว่า ป.ป.ช.ก็ต้องลงไปตรวจสอบด้วยเหมือนกัน แต่จะเริ่มต้นอย่างไรขอหารือกันก่อน
สำหรับการตรวจสอบโกดังข้าวในโครงการจำนำข้าวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังคงดำเนินต่อเนื่อง  โดยวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.(พิเศษ) พิศาล นาคผจญ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 31 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบมณฑลทหารบกที่ 31 จ.อุทัยธานี (ผบ.กกล.รส.มทบ.31 พื้นที่จ.อุทัยธานี) เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบดัวย ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ การค้าภายใน อ.ต.ก. อคส.และเซอร์เวเยอร์ พร้อมด้วยผู้ประกอบการโรงสี เจ้าของโกดังคลังสินค้ารับฝากข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ประชุมร่วมกันที่ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อชี้แจงความจำเป็นให้ระงับการเคลื่อนย้ายข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในโกดังกลางคลังสินค้า เพื่อป้องกันและป้องปรามการทุจริต ตามคำสั่ง คสช.
โดยในส่วนคลังสินค้าแยกเป็น 2 ส่วนคือ โกดังกลางคลังสินค้า ที่รับฝากข้าวสารโครงการรับจำนำข้าว ห้ามขนย้ายเข้า-ออกอย่างเด็ดขาด แต่โรงสียังซื้อขายข้าวเปลือก-ข้าวสาร ประกอบการได้ตามปกติ ห้ามเฉพาะคลังกลาง ที่จะมีผู้ถือกุญแจอยู่ 3 ส่วน 3 ดอกคือ อคส. เซอร์เวเยอร์ หรือผู้ควบคุมคุณภาพข้าว และอำเภอในพื้นที่โกดังกลางคลังสินค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากทหารและผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบพบการทุจริตข้าวสารหายไปจากโกดังคลังสินค้า หน่วยงานที่รับผิดชอบถือกุญแจทั้ง 3 ส่วน ต้องรับผิดชอบ และถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ เว้นแต่ถูกโจรกรรมก็ต้องสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป และเร็วๆนี้กำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและผู้รับผิดชอบจะออกตรวจสอบโกดังกลางคลังสินค้าว่ามีข้าวสารอยู่ครบ และหายไปหรือไม่
สำหรับจังหวัดอุทัยธานี มีโกดังคลังสินค้ากลางที่รับฝากข้าวสารทั้งหมด 43 หลัง เป็นของผู้ประกอบการ 20 ราย มีปริมาณข้าวสารที่ฝากไว้ทั้งหมดกว่า 5 แสนตัน หรือกว่า 5 ล้านกระสอบ
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและกรมการค้าภายใน จ.อ่างทอง เข้าตรวจสอบโรงสีสหกรณ์การเกษตรโพธิ์ทอง อ.เมืองอ่างทอง ตามคำสั่ง คสช. ไม่พบการทุจริต โดยโรงสีแห่งนี้รับข้าวเปลือกไว้กว่า 12 ล้านตัน ได้สีและส่งข้าวสารเข้าโกดังกลาง อ.ต.ก.ทั้งหมดแล้ว จ.อ่างทองมีโรงสี 12 แห่ง เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556 /2557 รวมข้าวสารที่ส่งเข้าโกดังกลางแล้วกว่า 93 ล้านตัน
ขณะที่การจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนายังดำเนินการต่อเนื่องเช่นกัน ที่จ.ศรีสะเกษ ชาวนาประมาณ 1,000 คนเร่งทำสัญญารับเงินในโครงการจำนำข้าว ปี2556/2557 ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาราษีไศล  หลังได้รับโอนเงิน 1,100 ล้านบาท เพื่อจ่ายชาวนารอบที่ 2 ซึ่งมีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินกว่า 14,000 คน ซึ่งจะเริ่มจ่ายวันที่ 9 มิถุนายน

    วิเคราะห์ข่าว

1.สาเหตุ-เกิดจาการที่รัฐบาลชุดเก่ามีนโยบายรับจำนำข้าวแต่พอถึงเวลารัฐบาลไม่สามารถมีเงินจ่ายให้กับชาวนาที่นำข้าวมาจำนำได้

2.ผลกระทบ-ชาวนาไม่มีเงินใช้ทำนาในครั้งต่อไปและติดหนี้นอกระบบเป็นจำนวนมากจึงมีชาวนาจำนวนมากมาประท้วงเพื่อให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าจำนำข้าว และทำให้เศษรฐกิจของประเทศต่ำลง

3.วิธีแก้ปัญหา-ถ้าเป็นประชนธรรมดาก็ควรเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐบาล แต่ถ้าเป็นรัฐบาลก็ควรให้ความเป็นธรรมต่อประชน



5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับชาวนา ควรจ่ายเงินตามกำหนด

MRG_Master กล่าวว่า...

FUCK IT ALL!
FUCK THIS WORLD!
FUCK EVERY THING THAT YOU STAND FOR!

Unknown กล่าวว่า...

ควรจะทำหน้าที่ให้ดีนะ

Unknown กล่าวว่า...

ซื่อสัตย์มาก

Unknown กล่าวว่า...

เยี่ยม!!!!

แสดงความคิดเห็น